การทำ Market Research เป็นสิ่งที่หลายคนแนะนำให้ธุรกิจต่าง ๆ ทำ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเราจะทำมันไปเพื่ออะไร วันนี้เราได้รวบรวมเป้าหมายในการทำ Market Research ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ มาให้ชมกัน เผื่อจะได้ใช้เป็นไอเดียตั้งต้นสำหรับการทำ Market Research ของธุรกิจคุณเอง เป้าหมายในการทำ Market research โดยทั่วไปที่มักจะทำกัน มี 6 เป้าหมาย ดังนี้
เป้าหมายที่แตกต่างกันทั้ง 6 ข้อนี้ต่างก็ใช้รูปแบบและวิธีการในการหาข้อมูลที่แตกต่างกันไป และยังใช้งานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไปด้วย เราได้สรุปข้อมูลของเป้าหมายในการทำ Market research ในแต่ละข้อเอาไว้แล้ว 1. เพื่อทำความเข้าใจลูกค้า สิ่งสำคัญในการที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้าในธุรกิจที่เราจะทำก่อน เช่น ช่วงอายุ อาชีพการงาน ไลฟ์สไตล์ รายได้ ความถี่ในการซื้อ ฯลฯ เพื่อให้เราสามารถปรับรูปแบบสินค้าหรือบริการให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้ กรณีตัวอย่าง บริษัทรถยนต์ระดับโลกแห่งหนึ่งวางแผนที่จะเข้ามาทำการตลาดในประเทศที่ยังไม่เคยทำมาก่อน บริษัทจึงจำเป็นต้องทำ Market Research เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าภายในประเทศนี้ ว่าชอบใช้รถประเภทไหนบ้าง ใช้รถเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ราคาที่สามารถจ่ายได้ รถยอดนิยมในตลาด ฯลฯ เพื่อเลือกรุ่นรถยนต์และปรับออปชั่นและราคาให้เหมาะสมกับลูกค้าในประเทศนั้นให้ได้มากที่สุด 2. เพื่อวัดผลประสิทธิภาพจากแผนการตลาดที่ทำไป ในการทำแผนการตลาดส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณา การจัดโปรโมชั่น หรือใช้พนักงานขาย เมื่อเราดำเนินแผนไปได้ซักระยะหนึ่ง เราย่อมอยากรู้ว่าผลการดำเนินงานนั้นเป็นอย่างไร ได้ผลหรือไม่ คุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า ซึ่ง Market Research สามารถให้คำตอบกับคำถามเหล่านั้นได้ กรณีตัวอย่าง บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์ได้จัดแคมเปญการตลาด เพื่อโปรโมทงานขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ครั้งใหญ่ และได้ลงโฆษณาในช่องทางต่าง ๆ ทั้งในหนังสือพิมพ์ แบนเนอร์บนเว็บไซต์ คลิปโฆษณาออนไลน์ ป้ายบิลบอร์ดตามระบบขนส่งสาธารณะ จึงได้ทำ Market Research เพื่อหาว่า แคมเปญนี้ช่วยสร้างยอดขายได้มากขึ้นหรือไม่ ช่องทางโฆษณาไหนที่จูงใจให้คนมาร่วมงานมากกว่ากัน 3. เพื่อทำความเข้าใจผลตอบรับของลูกค้า ก่อนที่เราจะเริ่มวางขายสินค้า จะต้องมีการทดสอบสินค้ากับกลุ่มลูกค้าตัวอย่างก่อน เพื่อตรวจสอบดูว่าลูกค้ามีผลตอบรับกับสินค้าใหม่นี้อย่างไร หากพบปัญหาใด ๆ จะได้แก้ไขได้ทันก่อนที่จะวางขายจริง กรณีตัวอย่าง บริษัทด้านเทคโนโลยีได้ผลิตสินค้าแว่นตาอัจฉริยะขึ้นมา จึงได้เชิญกลุ่มลูกค้าบางส่วนมาร่วมทดสอบและทดลองใช้สินค้านี้ดู เพื่อดูว่าลูกค้าสามารถใช้สินค้าตัวนี้ได้อย่างสะดวกง่ายดายไหม มีข้อจำกัดอะไรที่ทำให้ใช้งานไม่ได้เต็มที่ หรือมีข้อเสนอแนะอะไรที่จะทำให้สินค้าตอบสนองกับลูกค้าได้ดีขึ้น 4. เพื่อทำความเข้าใจมูลค่าการทำตลาดและกำไรที่อาจทำได้ การลงทุนในการทำการตลาดมีแต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นอาจทำให้ทำกำไรได้น้อยลง ดั้งนั้นจึงมีการทำ Market Research เพื่อตรวจสอบว่า มีโอกาสที่จะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนตรงส่วนไหนได้บ้างในการทำการตลาด เพื่อให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น กรณีตัวอย่าง บริษัทขายเครื่องปั่นน้ำผลไม้ได้เพิ่มช่องในการลงโฆษณามากขึ้น จากที่ลงในช่องทางออฟไลน์เพียงอย่างเดียว เป็นหันมาลงโฆษณาในสื่อออนไลน์เพิ่มด้วย เช่น สร้างเพจขายสินค้าออนไลน์ ลงวิดีโอโฆษณาในโซเชียลมีเดีย แล้วจึงทำ Market Research กับช่องทางเหล่านี้แล้วพบว่า การลองโฆษณาออนไลน์ได้ผลดีกว่า และยังมีต้นทุนถูกกว่าด้วย บริษัทจึงตัดสินใจหันมาลงทุนโฆษณาในช่องทางออนไลน์มากขึ้น และลดการโฆษณาในช่องทางออฟไลน์ลง เพื่อเพิ่มกำไรให้กับบริษัท 5. เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบจากปัจจัยภายนอก การทำธุรกิจต้องมองปัจจัยที่อยู่ภายนอกด้วย เช่น ข้อกฎหมาย คู่แข่งในตลาด ส่วนแบ่งในตลาด สภาพแวดล้อม การใช้จ่ายของประชากร ฯลฯ เพราะปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ การทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับตลาดที่เราเข้าไปทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น กรณีตัวอย่าง บริษัทผู้ผลิตมือถือพบว่า คู่แข่งในตลาดมือถือเจ้าหนึ่งได้ออกโทรศัพท์รุ่นใหม่มา ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงได้ทำ Market Research เพื่อหาข้อมูลถึงสาเหตุของความนิยมนั้น ซึ่งได้สรุปออกมาว่า เป็นเพราะมือถือรุ่นนั้นมีกล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ชมชัดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าตลาดมือถือกำลังให้ความสำคัญเป็นหลัก บริษัทจึงเอาข้อมูลนี้ไปใช้ออกแบบมือถือรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพกล้องเทียบเท่าหรือดีกว่าออกมาวางขายแข่งกับคู่แข่ง 6. เพื่อออกแบบและปรับเปลี่ยนแผนการตลาด เมื่อเราดำเนินแผนการตลาดระยะยาว เราควรที่จะติดตามวัดผลการดำเนินงานไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หากมีอะไรที่สูงหนือต่ำกว่าที่คาด จะได้ปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขได้ทันท่วงที และควบคุมแผนการตลาดให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้อีกด้วย กรณีตัวอย่าง บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ได้ทำ Market Research อย่างต่อเนื่องและพบว่า ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะลดการซื้อแผ่นภาพยนตร์มาดูที่บ้านลง เพราะหันไปรับชมผ่านบริการสตรีมมิ่งออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะแข่งกับตลาดบริการสตรีมมิ่ง แต่แล้วก็พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มลูกค้าที่ยังซื้อแผ่นภาพยนตร์นั้นเน้นไปที่การซื้อแผ่นแบบ Special Edition หรือ Limited ที่ราคาสูง มากกว่าแผ่นทั่วไปที่ราคาถูก เพราะลูกค้าเห็นว่าเป็นสินค้าที่สวยงาม หายาก และต้องการซื้อเพื่อเก็บสะสม จึงปรับกลยุทธ์มาขายแผ่นภาพยนตร์แบบดังกล่าวมากขึ้น เป้าหมายในการทำ Market Research ล้วนแล้วมาจากความต้องการในการทำตลาดตั้งแต่แรก ว่าต้องการทำเพื่อให้ได้ข้อมูลอะไรมา และจะนำข้อมูลนั้นไปใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งถ้าหากทำได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และต่อเนื่อง จะทำให้ Market Research มีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่ได้จะมีประโยชน์และคุณค่ากับธุรกิจอย่างมหาศาล ทั้งการเอาชนะคู่แข่ง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เมื่อเรียนรู้เป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเรียนรู้ขั้นตอนการทำ Market Research ก่อนที่จะทำ Market Research จริง Comments are closed.
|
AuthorHS Brands Global (Thailand) Team Categories
All
Archives
January 2024
|