ปัจจุบัน มีธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดตามแต่ละอุตสาหกรรมกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีของลูกค้าที่มีตัวเลือกให้เลือกใช้มากขึ้น แต่เป็นเรื่องไม่ดีกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องรับมือกับคู่แข่งมากขึ้น หลายครั้งเราจะเห็นว่า ธุรกิจในตลาดเดียวกันมอบสินค้าหรือบริการที่มีราคา คุณภาพ และคุณสมบัติเหมือน ๆ กันไปหมด เราเลยอาจเห็นการสร้างความแตกต่างด้วยการการลดราคา ข้อดีก็คือลูกค้าจะหันมาซื้อของคุณมากขึ้น แต่ก็ทำให้รายได้ลดลง รวมถึงด้อยคุณค่าสินค้าของตัวเองอีกด้วย แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สร้างความแตกต่างให้ธุรกิจคุณได้ โดยที่ไม่ต้อลงราคา แถมขายแพงกว่าคู่แข่งก็ยังได้ นั่นก็คือ การมีงานบริการลูกค้าที่ดีนั่นเอง ข้อเท็จจริงนี้พิสูจน์ได้จากข้อมูลการสำรวจต่าง ๆ โดย BW Disrupt พบว่า 8 ใน 10 ของลูกค้าทั้งหมดยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ดีขึ้น และ Marketing Week ก็ให้ข้อมูลที่คล้ายกันว่า ลูกค้า 62% ยินดีจ่ายเพิ่มถ้าธุรกิจนั้นให้บริการลูกค้าได้ดีกว่าจริง ส่วนผลลัพธ์ของการมีงานบริการที่ดีก็มีไม่น้อย โดย Medallia รายงานว่า ลูกค้าที่ได้รับประสบการณ์ที่ดี จะใช้จ่ายมากขึ้นถึง 140% เมื่อเทียบกับลูกค้าที่ได้รับประสบการณ์ และ Capgemini รายงานว่า ลูกค้ากว่า 81% ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อการันตีว่าจะได้รับบริการที่ดีจริง ๆ เมื่อเห็นแบบนี้ เราก็ควรปรับงานบริการลูกค้าให้ดีขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดีและความพึงพอใจให้ลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้คุณสามารถรักษาฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ และความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจคู่แข่งได้นั่นเอง Source: Ericsson-LG ร้านอาหารหลายร้านเล็งเห็นความสำคัญของงานบริการลูกค้ากันมากขึ้น ทำให้แต่ละร้านมีคุณภาพงานบริการที่ใกล้เคียงกันจนเริ่มไม่เห็นความแตกต่าง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธียกระดับงานบริการให้สูงกว่าคู่แข่งไปอีกระดับ 1. ฝึกอบรมพนักงานให้พร้อม ฝึกพนักงานให้พร้อมรับมือกับลูกค้าและสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงกระบวนการทำงาน เพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ 2. รับฟังลูกค้า ถ้าไม่รู้ว่าจะต้องบริการอย่างไรให้ดี ลองถามลูกค้าคุณดูว่าต้องการอะไร หากเราทำได้ ลูกค้าก็จะพึงพอใจมากขึ้น 3. อย่าให้ลูกค้ากินน้อยคอยนาน ควรให้บริการด้วยความรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้ลูกค้ารอนานเกินไป ทั้งการต่อคิว รออาหาร รอเช็คบิล หรือหากิจกรรมให้ลูกค้าระหว่างรอ 4. ใช้เทคโนโลยี CRM CRM คือระบบบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าในร้าน หากใช้จะช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น และข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากลูกค้าสามารถนำไปต่อยอดคิดโปรโมชั่นหรือเมนูใหม่ ๆ ได้อีกด้วย 5. รักษาความสะอาด
ต้องดูแลทั้งภายในและนอกร้าน ทั้งห้องรับลูกค้าและห้องครัว ฟังดูเหมือนง่าย แต่ถ้าต้องรับลูกค้าจำนวนมากต่อเนื่องกัน ร้านจะสกปรกขึ้นอย่างรวดเร็ว 6. รักษามาตรฐานงานบริการ เป็นจุดที่พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะหลายร้านให้บริการได้ดีในช่วงแรก ๆ แต่พอเวลาผ่านไปมาตรฐานก็ค่อย ๆ ลดลง ความต่อเนื่องของมาตรฐานจึงนับเป็นหนึ่งในการยกระดับเช่นกัน หากทำตามนี้ได้ งานบริการก็จะดีเหนือคู่แข่งไปอีกขั้น ทำให้ลูกค้าติดใจคุณอย่างแน่นอน Source: Amarinacademy, Wongmai ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านเพราะกลัวติดเชื้อ แถมรับลูกค้าในร้านได้น้อยลงเพราะต้องเว้นระยะอีก ร้านอาหารจึงงัดวิธีการต่าง ๆ ออกมาใช้ เพื่อรักษาธุรกิจของตัวเองเอาไว้ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลจริง เราจึงรวบรวมวิธีการเหล่านี้เอาไว้ เผื่อว่าจะเป็นไอเดียให้ร้านค้าอื่น ๆ ได้นำไปใช้ทำตามกัน 1. ทำความสะอาดร้าน ฟังดูเป็นเทคนิคเรียบง่าย แต่ได้ผลจริง ก่อนที่เราจะเริ่มเรียกหาลูกค้า เราต้องทำความสะอาดร้านให้พร้อมรับลูกค้าก่อน พร้อมโปรโมททางโซเชียลว่าได้ทำความสะอาดไปอย่างไรบ้าง เพื่อการันตีกับลูกค้าว่าร้านสะอาดแน่นอน 2. เตรียมอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ เมื่อร้านพร้อมรับคนแล้ว เราต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันเชื้อต่าง ๆ ไว้ เช่น เจลล้างมือ แผ่นกั้นอะคริลิกใส ผ้าเช็ดโต๊ะและขวดสเปรย์ทำความสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อในร้าน และป้องกันลูกค้าจากเชื้อไปด้วย 3. ให้บริการเดลิเวอรี่/ซื้อกลับบ้าน ถ้าลูกค้าไม่เข้ามาหาเรา เราก็เข้าไปหาลูกค้าเองซะเลย ด้วยการให้บริการส่งอาหารเดลิเวอรี่ถึงบ้าน และรับออเดอร์สั่งกลับบ้านที่หน้าร้านด้วย โดยเราอาจใช้พนักงานที่มีอยู่แล้วมาทำหน้าที่ส่งอาหารให้แทนก็ได้ 4. เข้าร่วมแอพเดลิเวอรี่ หาไม่สามารถให้บริการเดลิเวอรี่เองได้ ก็ให้เดลิเวอรี่คนอื่นมาช่วยทำให้ซะเลย ด้วยการเข้าร่วมกับบริการแอพส่งอาหารต่าง ๆ 5. ให้บัตรส่วนลด/บัตรของขวัญ บางร้านมีการเปิดขายบัตรอาหารล่วงหน้า เพื่อให้ร้านยังมีเงินหมุนเวียนอยู่ โดยจะรับประกันว่าอาหารที่ได้มีมูลค่ามากกว่าบัตรที่ซื้อแน่นอน แถมอายุบัตรก็มักจะนานถึงครึ่งปีหรือหนึ่งปีซะด้วย 6. Livestream ทำอาหาร แปลกแต่จริงเมื่อมีบางร้านเปิดไลฟ์สตรีมทำอาหารให้คนได้ดูในโซเชียลมีเดีย เพราะคนในปัจจุบันชอบดูไลฟ์สตรีมกันมาก ทำให้มีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ที่ผ่านเข้ามาเห็นสนใจสั่งอาหารกันมากขึ้น ทั้งหมดนี้คือเทคนิคที่ร้านอาหารใช้กันจริง สร้างรายได้จริง และพาธุรกิจรอดจริง ใครที่เป็นเจ้าของร้านอาหารลองเอาวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลย Source: Taokaemai, Prosoft ผ่านมาหนึ่งปีแล้วนะคะที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรค COVID-19 ซึ่งในตอนนี้เราก็กำลังอยู่ในช่วงของการระบาดระลอกใหม่อยู่ แม้จะไม่ได้มีการล็อกดาวน์แบบครั้งที่แล้ว แต่ร้านค้าต่างก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน เพราะลูกค้าเข้าร้านน้อยลงด้วยความกังวลว่าอาจจะจะติดเชื้อโควิด หลาย ๆ ร้านแก้ปัญหาด้วยการเปิดช่องทางขายออนไลน์หรือขายผ่านแอพเดลิเวอรี่ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ายังสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องเข้าร้าน แต่ถึงอย่างนั้น การเปิดหน้าร้านก็ยังมีความสำคัญอยู่เสมอ เราไม่ควรปิดเพื่อขายออนไลน์ล้วน ๆ เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น วันนี้ทีมงานจึงจะมาแนะนำมาตรการป้องกันโรคโควิดดี ๆ ที่ร้านค้าไหน ๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ากลับมาเข้าร้านกันมากขึ้น และขจัดเชื้อโควิดให้ห่างจากร้านของคุณอีกด้วยค่ะ โดยแบ่งมาตรการเป็นกลุ่ม ๆ ดังนี้ 1. มาตรการหน้าร้าน 1.1 ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ จะใช้เป็นเครื่องที่วางบนขาตั้งให้ลูกค้าวัดเอง หรือใช้เครื่องแบบพกพาให้พนักงานถือวัดลูกค้าเองก็ได้ค่ะ 1.2 ตั้ง QR code แสกนเช็คอินแอพไทยชนะ ควรพิมพ์โค้ดออกมาให้คมชัด ตั้งให้เห็นเด่นชัด แสกนได้ง่าย หรืออาจจัดวางโค้ดให้แสกนไว้มากกว่า 1 จุดก็ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า 1.3 วางเจลล้างมือ ควรให้ลูกค้าใช้ทั้งก่อนและหลังออกจานร้าน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยเมื่อเข้าและออกจากร้านของเรา 1.4 เว้นระยะลูกค้าที่รอคิวหน้าร้าน ควรจัดที่นั่งรอคิวให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ถ้าต้องยืนรออาจใช้ที่กั้นตั้งเป็นแถวก็ได้ พร้อมติดจุดมาร์คบอกตำแหน่งการยืนให้ห่างกัน 1 เมตร โดยมาตรหน้าร้านเหล่านี้ควรมีพนักงานอย่างน้อย 1 คนคอยควบคุมดูแลเสมอ เพื่อลูกค้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2. มาตรการภายในร้าน 2.1 ทำความสะอาดพื้นผิวบ่อย ๆ ให้ทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ทางเดิน เมนูอาหาร สินค้าตัวอย่าง ฯลฯ 2.2 จัดที่นั่ง/ยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร หากเป็นร้านอาหาร ให้จัดโต๊ะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ส่วนร้านอื่น ๆ ให้มาร์คจุดบนพื้นร้านให้ห้างกัน 1 เมตร เพื่อแนะนำจุดที่ควรยืนเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างกัน 2.3 ควบคุมจำนวนคนภายในร้าน จะช่วยให้ลูกค้ารักษาระยะในร้านได้ง่ายขึ้น เดินสะดวกขึ้น 3. มาตราการสำหรับพนักงาน 3.1 สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ร้านค้าควรเตรียมหน้ากากให้พนักงานได้ใส่อย่างน้อย 1 ชิ้น/คน/วัน 3.2 ใช้ถาดรองรับเงินสด/บัตรเครดิตลูกค้า การใช้ถาดเป็นตัวกลางรับเงินสะหรือบัตรเครดิตจะช่วงลดการสัมผัสโดยตรงและความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ค่ะ 3.3 มีระบบจ่ายเงินแบบไร้เงินสดในร้าน เช่น จ่ายผ่าน QR Code, e-Wallet, โอนผ่านแอพธนาคาร เป็นต้น เมื่อเราเตรียมมาตรการป้องกันโควิดให้ร้านแล้ว ก็อย่าลืมแจ้งข่าวนี้ให้กับลูกค้าของคุณ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่คุณมี เช่น Facebook Page, LINE, เว็บไซต์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า โดยถ่ายรูปการปฏิบัติงานของพนักงานตามมาตรการต่าง ๆ ให้เห็นว่ามีอะไรบ้างอย่างชัดเจน เพียงเท่านี้ลูกค้าก็มีความมั่นใจที่จะเข้าร้านของคุณมากขึ้นแล้วค่ะ Source: Posttoday ธุรกิจทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กันหมด ทั้งลูกค้าลดลง ค้าขายไม่คล่อง บางธุรกิจต้องปิดสาขาหรือไล่พนักงานออก บ้างก็จำต้องปิดกิจการไปเลย แต่ในอีกมุมหนึ่ง การแพร่ระบาดครั้งนี้กลับเป็นการสร้างโอกาสทองให้กับธุรกิจบางอย่างขึ้น โดยที่แม้แต่เจ้าของธุรกิจนั้น ๆ เองก็อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ วันนี้เราจะมาดูกันว่า มีธุรกิจอะไรบ้างที่ฮิตเปรี้ยงปร้างหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 กันค่ะ 1. ธุรกิจคอร์สเรียนออนไลน์ เนื่องจากผู้คนมีเวลาว่างมากขึ้นจากการต้องทำงานหรือเรียนที่บ้าน หนึ่งในกิจกรรมยามว่างที่ทำได้และมีประโยชน์ก็คือการเรียนคอร์สเรียนออนไลน์นั่นเอง โดยจะเลือกเรียนเพื่อเพิ่มทักษะที่จำเป็นกับการทำงาน การใช้ชีวิตในบ้าน หรือเรียนตามความสนใจของเราเองก็ได้ 2. ธุรกิจทำความสะอาด นี่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มาแรงที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชน หรือแม้แต่คนทั่วไป เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงาน ฯลฯ ต่างก็ต้องการทำความสะอาดสถานที่ของตนเองให้สะอาดปลอดโควิด 3. ธุรกิจ e-Commerce เมื่อเกิดการแพร่ระบาดหลายคนไม่อยากออกไปซื้อของข้างนอกด้วยตนเอง จึงหันมาซื้อออนไลน์แทน ความนิยมในธุรกิจนี้คาดว่าจะอยู่ไปอีกนานแม้โควิดจะหมดลงแล้วก็ตาม 4. ธุรกิจปลูกยางพารา หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมธุรกิจนี้ถึงฮิตกัน นั่นก็เพราะว่ายางพารานั้นเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ถุงมือยางหรือชุดป้องกันนั่นเอง 5. ธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับ อีกธุรกิจฮิตที่คุณอาจคาดไม่ถึง เพราะเมื่อเราต้องอยู่แต่ในบ้าน จึงอยากจะตกแต่งที่อยู่ให้สวยงามขึ้นเพื่อคลายเครียด และเพิ่มงานอดิเรกใหม่ให้กับตัวเองไปในตัว 6. ธุรกิจอาหารแปรรูป เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติอะไรขึ้นมา สิ่งที่เรามักจะทำกันเป็นอย่างแรกคือการกักตุนอาหาร และต้องเป็นอาหารที่เก็บได้นานด้วย ดังนั้นอาหารแปรรูปจึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในช่วงนี้ได้ดีเลยทีเดียว 7. ธุรกิจขนส่งอาหาร นี่ก็เป็นอีกธุรกิจที่มาแรงก่อนจะมีโควิดเสียอีก ด้วยการที่คุณสามารถสั่งอาหารจากร้านใดก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงไปทานที่ร้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคโควิดสุด ๆ 8. ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ โควิดทำให้คนไม่อยากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ผู้คนต้องจำกัดการใช้จ่ายเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ จึงเลือกที่จะซ่อมสิ่งของและอุปกรณ์ของตัวเองแทนที่จะซื้อใหม่ แม้ว่าธุรกิจเหล่านี้จะได้รับความนิยมมากก็จริง แต่ใช่ว่าเราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจเหล่านี้ได้ง่าย ๆ เพราะทุกตลาดย่อมมีคู่แข่ง ดังนั้นธุรกิจคุณควรมีการให้บริการที่ดี สร้างความประทับใจให้ลูกค้า เพื่อให้เขากลับมาใช้บริการของคุณและแนะนำบอกต่อคนอื่นอีก |
AuthorHS Brands Global (Thailand) Team Categories
All
Archives
January 2024
|